วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หลบร้อน ไปนอนตรัง (ตอนที่ 2 โอ้ทะเลแสนงาม)

ทะเลยามเช้า มันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

ถ้ารู้สึกอยากผ่อนคลาย จากเรื่องราวต่างๆ ที่มันถาโถมเข้ามา

ที่นี่แหละ คือทางเลือกหนึ่งของการใช้ชีวิต เบา เบา


6 โมงครึ่ง ไม่ใช่เวลาปกติที่ผมจะลุกจากที่นอน ขึ้นมาทำกิจกรรมอะไรต่างๆนาๆ

นอกจากตื่นมาเข้าห้องน้ำ

แต่วันนี้ ผมกลับไม่รู้สึกอยากนอนต่อเลย (แปลกที่หรือเปล่าก็ไม่รู้)

แต่ก็ลุกขึ้นอาบน้ำ กะว่าเช้านี้ ขอดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าริมหาดซะหน่อย

ซักพักผมก็พร้อมสำหรับวันใหม่ แล้วก็รีบเดินไปที่ชายหาด

ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแน่ ก็มันอยู่คนละฝั่งกันนิ

ที่ชายหาดมีเต้นท์กางอยู่ด้วย ผมก็แอบสงสัย ว่ามานอนอยู่ได้ยังไง

เพราะเมื่อตอนกลางคืน ผมลองมาเดินริมหาดดูแล้ว

ขอบอกเลย..... ยุงเยอะมากกกกก และกัดเจ็บมากกก

เชื่อม่ะ พิมพ์ไปผมยังนั่งเกาขาจุดที่ยุงมันกัดอยู่เลย.... ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะเนี่ย

และบรรยากาศตอนเช้าของหาดยาววันนี้ ทะเล ท้องฟ้าภูเขา ราวกับภาพวาดจริงๆ สวยมากกกกกก

ธรรมชาติมักแต่งแต้มสีสัน ให้โลกนี้สวยงามเสมอ




หลังจากเอิมอิ่มกับบรรยากาศยามเช้า ก็ต้องหาอะไรเข้ากระเพาะให้มันหนักขึ้นบ้าง

เผื่อใครยังไม่รู้ กินบรรยากาศมันไม่ทำให้ท้องอิ่มนะครับ......

ผมเดินกลับมานั่งพักหน้าห้อง ให้หายเหนื่อยซักพัก ก่อนที่จะเริ่มหาอะไรลงท้อง

ที่เจ้าไหมบีช หน้าห้องทุกห้องจะมีเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่น พักผ่อนกายา อยู่ทุกห้อง

ก็ดีเหมือนกันนะ เอาไว้นั่งดูโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้มีอะไรให้ดูนักหรอกครับ

แต่พอผมนั่งได้แปบนึง ก็เหลือบไปเห็น สกูปี้ไอสีชมพูหวานแหวว ที่พาผมมาถึงที่นี่ ก็นึกขึ้นได้

ตายห่า ยังไม่ได้คืนมอไซค์..... รีบค้นหานามบัตร โทรไปต่อรองกับพี่ที่ร้าน

ขอคืนวันพรุ่งนี้ประมาณ 4 โมงเย็นนะพี่ คิดเพิ่มเท่าไหร่ครับ

แกขอคำนวณแปบบบ คาดว่าจะดีดลูกคิดคำนวณราคา...... เพิ่ม 400 จ๊ะ

โอเค เพิ่มวันครึ่ง 400 พอรับได้ ก็เลยตามนั้นนนนนนน.......


หลังจากนั้น ผมก็รีบไปหาอะไรกินในทันที่ ที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ต

เช้านี้ก็เจอกับพี่เจ๋งเจ้าของรีสอร์ตอีกครั้ง แกอุ้มลูกสาวน่าร๊ากกกกน่าชังมาก

น่ากอดแน่นๆๆๆๆๆซัก 2-3 นาที

พี่เจ๋งแจ้งว่า เดี๋ยว 9 โมงจะมีรถตู้มารับนะครับ อ๋อใช่ เมื่อวานผมให้พี่เขาจองทัวร์ดำน้ำให้นี่นา

ผมเลยรีบจัดแจงหาอะไรกินซะก่อน

อาหารเช้าของที่นี่ ก็ง่ายๆครับ เช้านี้เป็นสไตล์ฝรั่ง ไข่ดาว 2 ฟอง สุกฟองไม่สุกฟอง.....

เฮ้ยยยย ทอดยังไงว่ะเนี่ย.... ชอบๆ

แล้วก็พวกไส้กรอก แฮม ที่พี่แม่บ้านจะทำมาเสริฟให้ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำเองก็คือ

ชงกาแฟ ปิ้งขนมปัง แล้วก็เอาไปนั่งรอที่โต๊ะ เชิ๊บๆ




และระหว่างทานอาหารเช้า ผมก็ได้เพื่อนใหม่อีก 1 คน เอ้ยไม่ใช่ดิ 1 ตัว

น้องหมามายืนทำตาระห้อยอยู่ข้างๆ ไอ้เราก็คนใจดีมีศีลธรรม ก็เลยจัดไป

เฮ้ย...เอ็งชิ้น ข้าชิ้นนะ แบ่งกันครึ่งๆวินๆนะ

พูดกับหมาจริงๆครับ 5555 น้องโต๊ะข้างๆถึงกับหันมามอง.....เหอะๆๆๆ


แต่ยังไม่ทัน 9 โมงเลยครับ รถตู้ของบริษัททัวร์ที่พี่เขาจองไว้ให้ก็มาถึงรีสอร์ท

ซะแล้วไง ยังไม่ได้เตรียมตัวเลย ทัวร์วันนี้มีไปกับน้องอีกกลุ่มนึง ที่มากันประมาณ 8 คน

ขณะที่ผมเดินไปเตรียมตัวที่ห้องพัก น้องกลุ่มนี้ก็เดินขึ้นรถกันหมดแล้ว

อ้าว...... กำล่ะ ว่าจะรอเดินเฉิดฉายออกมาซัก 9 โมง เลยต้องรีบๆๆๆๆ

พอขึ้นรถได้ ไม่กล้ามองหน้าใครเลย......

ตัวถ่วงงงงงงง........ คิดในใจกันอยู่ใช่มั๊ยอ่ะ.... ชิ ไม่แคร์ 55555

แล้วไม่นานนัก รถตู้ก็นำเรามาสู่บริษัททัวร์ที่เราต้องเดินทางไปกับเขา ที่หาดปากเมง

ตอนนี้แหละ ต้องเพิ่งพาน้องๆ 8 คนที่มาด้วยกันแล้ว ก็ต้องลงทะเบียนเป็นกลุ่ม

ก็เลยต้องบอก....เหน็บพี่ไปไว้ด้วยคนนะๆๆๆๆ



ทัวร์ที่ผมจะเดินทางไปกับเขาวันนี้ เป็นของจาระวีทัวร์ ซึ่งน่าจะเป็นทัวร์ที่ดีที่สุดของปากเมง

มองดูการบริหารจัดการค่อนข้างดี มีประกันอุบัติเหตุ มีไกด์ที่ให้ความรู้ได้ดี

และมีทีมงานที่ไปกับเรือคอยช่วยเหลือเราหลายคนอยู่

แถวๆท่าเรือปากเมง ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน ใครสนใจก็เดินหาดูกันได้นะครับ


และซักพัก ทางไกด์ของเราก็ประกาศ ว่าวันนี้เราคงไปได้เกาะเดียวนะครับ

ถ้ำมรกต ไฮไลต์ของเราก็คงไปไม่ได้ เกาะดำน้ำต่างๆก็คงไม่ได้ไป ไปได้แค่เกาะไหงเกาะเดียว

เฮ้ยยย..... แค่เกาะไหง ไหงเป็นงั้นล่ะ

และผมก็ได้ความกระจ่าง เนี่องจากวันนี้ที่ผมไป เป็นวันที่ 1 มิถุนายน

ทางอุทยานแห่งชาติ สั่งปิดเกาะห้ามเที่ยวตั้งแต่วันนี้

กำ มาถูกวันจริงๆกรู

แต่ด้วยวันนี้ทางลูกค้ามีการจองล่วงหน้ากันไว้ก่อนแล้ว จึงอนุโลมให้เป็นทัวร์สุดท้ายของปี.......

จะรู้สึกภูมิใจดีมั๊ยเนี่ย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไหงก็ไหงว่ะ

ระหว่างทางที่เดินไปขึ้นเรือ เห็นทหารมารอปิดท่าเรือเพียบเลย

แถมมีทีวีมาถ่ายสกู๊ปด้วย น่าเห็นใจคนที่นี่

เพราะการท่องเที่ยวคงจะหยุดชะงักถึง 4 เดือน

ถ้าใครมีสวนยางก็กลับไปทำได้ แต่ใครที่ไม่มีจะทำยังไงหน๋อ

แต่มองอีกมุมมันก็ดี ที่จะได้เป็นการหยุดพักเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ปะการัง



ท่าเรือปากเมง เป็นท่าจอดเรือ จะมีชายหาดก็อยู่เลยถัดไปหน่อย

แต่เท่าที่ผมสังเกต น้ำไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่

แต่ถ้าให้มานั่งกินอาหารทะเล ชมบรรยากาศ อันนี้ผมว่าเวิร์คนะ

แต่ถ้าใครจะเล่นน้ำ ก็เล่นได้นะก็มีคนเล่นอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ไช่มาเล่นตรงท่าเรือล่ะ



พูดตรงๆ มาทะเล มาดำน้ำ ผมแทบไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย มาหาเอาดาบหน้าทั้งนั้น

อย่างซองกันน้ำมือถือ อันนี้ผมก็เพิ่งตระหนักว่า

เฮ้ย.... ต้องมีว่ะ มาคนเดียวจะวางไว้แล้วไปดำน้ำ มันจะไม่งามนะ

ก็ซื้อที่จาระวีทัวร์นั่นแหละครับ 390 บาท ต่อได้ 370 บาท

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง..... ระหว่างทางที่นั่งเรือไป ก็จะมีน้ำมาเสริฟให้

มีบรรยายถึงเกาะต่างๆบ้างเล็กน้อย

แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะนั่งชมวิว เอาบรรยากาศซะมากกว่า



แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคน ที่เดินไปทั่วเรือ เพื่อหามุมต่างๆ ถ่ายรูป

เกาะฝั่งนี้สวย ก็เดินไปฝั่งนี้ เกาะฝั่งโน้นสวย ก็เดินไปฝั่งโน่น

ซึ่ง..... หนึ่งในนั้น ก็ผมเนี่ยแหละ เดินกันให้เมาเรือกันไป


 

แล้วใช้เวลาไม่นานมากนัก เรือก็พาพวกเรามาเทียบท่าเรือเกาะไหง

ซึ่งท่าเทียบเรือนี้เป็นของเกาะไหงรีสอร์ท

แต่เขาอนุญาตให้เราใช้ เพื่อที่จะมาดำน้ำที่นี่ในวันนี้

(ก็โดนปิดเกาะแล้วนี่ ลูกค้าที่รีสอร์ทเลยไม่มีเลย เหลือแต่พวกเรา)

เมื่อขึ้นฝั่งทางทีมงานก็จะแจ้งวิธีการใช้สน็อคเกิ้ล และมารยาทต่างๆในการดำน้ำ


ถึงเวลาที่จะต้องลงน้ำ ผมรีบเอาโทรศัพท์มือถือใส่ในซองกันน้ำทันที

รู้ป่ะ ใจผมตอนนั้นนะ ไม่มั่นใจกับซองกันน้ำเอาซะเลย เพิ่งซื้อสดๆด้วย ไม่ได้เทสอีกต่างหาก

จะเอาโทสับสองหมื่นแปดมาทิ้งทะเลหรือเปล่าว่ะเนี่ย

แต่ก็ต้องเสี่ยงครับ เพราะชีวิตคือการเสี่ยง.... แล้วผมก็เอาไปดำผุดดำว่ายอยู่ร่วมชั่วโมง......

เฮ้ยยยยย...ใช้ได้เว้ย น้ำไม่เข้า 55555

ชีวิตแสนสุข ริมหาดขาว น้ำใส จึงเริ่มขึ้น





ถ่ายรูปใต้น้ำ บอกตามตรง แมร่งโครตยากเลย ด้วยความไม่เคยไง เลยไม่รู้ต้องไปปรับยังไง

พอดำไปปุ๊บ แรงกดของน้ำก็ไปทำปฎิกิริยากับหน้าจอ

กล้องหายแอฟโน้นผลุบแอพนี้โผล่ โอยยยยย ปวดหัว

พอจะเริ่มเข้าที่ อ้าวแบตจะหมดอีก ไม่มีแบตสำรองมาอีก......

แล้วสังเกตเห็นว่ารูปไม่ชัดเลยอ่ะ ก็มันผ่านซองกันน้ำ เลยรีบถอดก่อนแบตจะหมด...... แล้ว

แชะ........................... เครื่องดับ


เป็นอันจบทริปดำน้ำของผมในวันนี้ทันที......

เดินนอยตัวเองขึ้นฝั่ง หาข้าวที่ทางทัวร์จัดมาให้กินเป็นมื้อเที่ยงกินแก้เซ็ง

อาหารที่ทางจาระวีทัวร์จัดมาให้เป็นมื้อเที่ยง จะเป็นแบบบุฟเฟ่

ตักข้าวกันเอาเลย แล้วเดินไปตักกับข้าวที่มี 5-6 อย่างโปะๆๆๆๆๆ และเท่าที่สังเกต

ไม่ว่าจะชายจะหญิง จะเด็กจะแก่ พูนจานกันทุกคนครับท่าน..... หิวดิๆๆๆๆๆๆ 55555

เสียดายกล้องแบตหมดเลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดู ต้องกราบขออภัย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ประมาณบ่าย 2-3 พวกเราก็เดินทางกลับสู่ฝั่ง แล้วรถตู้ที่มาส่งเรา ก็จะมารอเรากลับสู่ที่พักใครที่พักมัน

เย็นนี้ดูเหมือนจะยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ผมจำได้ว่าเมื่อวานพี่เจ๋งเจ้าของรีสอร์ต บอกกับผมไว้ว่า

หลังเขาลูกข้างๆรีสอร์ต มีชายหาดของหมู่บ้านชาวประมงหาดยาวอยู่ ไปเดินเที่ยวดูได้นะ

พอนึกขึ้นได้ ก็รีบชาร์ตแบต...... แล้วสกูปี้ไอคู่ซี้คันใหม่ผมก็พาผมไปสู่หาดทรายหมู่บ้านหาดยาว

ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ช่วงเย็นๆเด็กๆก็มาวิ่งเล่นกันริมหาด

วิธีชีวิตชาวประมงของที่นี่ ดูธรรมชาติมากๆ เงียบสงบจริงๆ มีเสียงเด็กวิ่งเล่น มีเสียงคลื่นเบาๆ

ใครมาแถวนี้ขอแนะนำเลย มาเดินเที่ยวดูนะครับ





ก่อนกลับที่พัก ผมได้เดินไปคุยกับชาวบ้านที่นี่ เพราะผมรู้มาว่า แถวนี้มีถ้ำอยู่ สามารถไปเที่ยวได้

ซึ่งก็เป็นตามนั้น ผมจึงนัดแนะกันพรุ่งนี้เช้า เพื่อที่จะให้พาผมไปเที่ยว

แล้วผมก็กลับที่พักแบบ หัวใจพองโต

เมื่อวานผมไปดูพระอาทิตย์ตกที่หาดสั้น วันนี้เราเลยว่าจะดูพระอาทิตย์ตกที่หาดยาวบ้าง

ผมจึงรีบบึ่งรถกลับมาให้ทันพระอาทิตย์ตก และเมื่อผมกลับมาถึงหาดยาว.....

นี่คือภาพที่ผมได้เห็น............


คืนนี้ผมเดินกลับที่พักด้วยความรู้สึกอิ่มด้วยความสุขอีกวัน

มันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากในหน้าคอมพิวเตอร์ หรือในหน้าหนังสือ

ตัวอักษรที่พิมพ์ กับความรู้สึกจากที่ตาเห็น มันต่างกันสิ้นเชิง

กล้าที่จะเปิดโลกด้วยตัวคุณเองเถอะครับ แล้วจะรู้ว่าความสุข มันหาไม่ยากเลย

เรื่องราวในวันสุดท้าย ยังมีอยู่ ยังไม่จบหรอก ไว้จะมาต่อวันหน้านะครับ.....

ตอนนี้ของตัวไปนอนก่อน พร้อมกับภาพบ้านเจ้าไหม บีชเฮ้าส์ยามค่ำคืน......ZZZzzzzzzZ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น