กรุงเทพฯยามค่ำคืน
แสงสีและรอยยิ้ม ยังมีให้กับผู้คนที่ยังไม่อยากข่มตานอน
และผมก็อยู่ในประเภทนี้ด้วยซิ.....
1 ทุ่มตรง...หันซ้ายหันขวาอยู่หน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
แสงสีและรอยยิ้ม ยังมีให้กับผู้คนที่ยังไม่อยากข่มตานอน
และผมก็อยู่ในประเภทนี้ด้วยซิ.....
1 ทุ่มตรง...หันซ้ายหันขวาอยู่หน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะไปที่แห่งนึง ที่ผมดันเพิ่งจะรู้จัก
ซึ่งจริงๆแล้ว ผมเดินผ่านไปผ่านมาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร
และที่ที่ผมพูดถึงนั่นก็คือ ท่ามหาราช
ยอมรับว่า งงๆอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยอยู่พักใหญ่เลยล่ะ
ก็ไม่รู้จะนั่งรถสายอะไรไปดีน่ะซิ
ท่ามหาราชอยู่ไม่ไกลจากท่าพระจันทร์เท่าไหร่นัก
ฉะนั้นเป้าหมายใหญ่ๆที่จะต้องไปให้ถึงก็คือ...สนามหลวง
ผมโดดขึ้นสาย 12 .... เหอะๆ มันไปทางไหนก็ไม่รู้ เอางงเหมือนกัน ก็ไม่เคยขึ้นสายนี้
แต่ก็เพราะนายท่ารถเมล์ที่อนุสาวรีย์แนะนำมา ก็เลยเอาว่ะ หลงเดี๋ยวก็รู้เอง
รถวิ่งมาเรื่อยจนมาถึงถนนราชดำเนิน ที่นี่มาบ่อยค่อยอุ่นใจหน่อย
จนรถเลี้ยวเข้าถนนดินสอ ถนนนี้อยู่ข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก็รู้สึกได้ว่า... ผิดเส้นทางเราแลัว... สนามหลวงต้องตรงไปนี่หว่า รีบโดดลงไม่รอช้าเลย
ดีนะตรงนั้นมีป้ายรถเมล์พอดี
และต่อจากนี้... ก็ถึงเวลา "วอล์คกิ้งทริป"
เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไป สนามหลวง
ระหว่างทางจะมีซอยต่างๆ ที่ดูภายในซอยหรือถนนย่อยๆนี้
จะดูคึกคักด้วยร้านต่างๆ ที่เปิดรอนักท่องราตรีทั้งหลาย
แต่วันนี้ผมมีเป้าหมายแล้ว... ขอผ่านล่ะกัน
และแล้วก็มาถึงสนามหลวงจนได้ ก็ไม่เท่าไหร่เหมือนจะไกลแต่ก็เดินไหวอยู่นะ
สนามหลวงวันนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากวันวานมากนัก
ยังเป็นสถานที่ ที่ยังมีผู้คนมาอาศัยปูเสื่อรับลมหลับนอน
สนามหญ้าที่นี่นุ่มน่านอนเชียวล่ะ... ลองแล้ว 555 แทบหลับ
ตรงกลางของสนามหลวง จะถูกปูพื้นไว้เพื่อไว้ทำกิจกรรมต่างๆ
ซึ่งตรงนี้ ก็มีทั้งพ่อแม่พาลูกมาวิ่งเล่น วัยรุ่นมารวมกลุ่มจัดกิจกรรมที่ตัวเองชอบ
และส่วนรอบๆสนามหลวง ผมจะเห็นคนมาขี่จักรยานออกกำลังกายกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
นี่แหละ สนามหลวง จึงเป็นที่ออกกำลังกายและพักผ่อนของคนเมืองอย่างดีเลย
ผมเดินข้ามสนามหลวงผ่านหน้าพระลาน
ซึ่งหน้าพระลานก็หน้าวัดพระแก้วนี่แหละ
ตรงนี้มีร้านเก่าแก่อยู่หลายร้าน เป็นที่ชุมนุมของคนมีชื่อเสียงหลายๆท่าน
แต่นี่มืดแล้ว ผมเลยมุ่งหน้าต่อ เพื่อไปสู่ถนนมหาราช
และนี่แหละเป้าหมายของผมวันนี้ "ท่ามหาราช"
ท่ามหาราชจริงๆก็คือท่าเรือนึง ที่จะมีเรือด่วนเจ้าพระยามาจอดรับส่งผู้โดยสารที่ท่านี้
แต่ปัจจุบัน ไม่ว่าที่ไหนถ้าไม่สร้างจุดขาย ชื่อของคุณก็จะค่อยๆหายไปตามเวลา
ที่นี่ก็เหมือนกัน มีการนำร้านอาหารแบรนด์ต่างๆมาไว้
มีร้านค้า มีสินค้ามาไว้ให้ผู้คนได้เลือกซื้อ
มีการนำแผงพระบางส่วนที่มีอยู่มากมายแถวนี้ มาไว้ด้านใน
แต่โดนรวมผมว่า ที่นี่สิ่งที่น่าสนใจก็จะมีแค่การมาถ่ายรูป
ใครที่ชอบถ่ายรูป ชอบเซลฟี่ ที่นี่ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจดีทีเดียว
แต่อย่าคาดหวังกับร้านค้าที่นี่มาก เพราะไม่ได้มีหลากหลาย
ไม่ได้มีเยอะมากมาย จนทำให้ผมคิดไปว่า ครั้งเดียวก็คงเพียงพอแล้ว
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ท่าเรือนี้ในชีวิตประจำวัน แบบผม
แต่ใครยังไม่เคยมา ก็ลองมาหามุมสวยๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้ดูเล่นได้นะครับ
เป็นอีกที่ ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ดูเล่นได้เยอะทีเดียวเชียว...
หลังจากเต็มอิ่มจากท่ามหาราช ท้องที่ยังไม่อิ่ม ก็ร้องเตือนทันทีเชียว
เลยมุ่งหน้ากลับไปทางถนนพระจันทร์
ข้างถนนจะมีร้านข้าวต้ม อาหารตามสั่ง ให้เลือกอยู่ริมถนนหลายร้าน
ที่นี่อร่อยแทบทุกร้านเลยนะ เดินนี่ใครหิวๆก็ต้องแวะกันล่ะ ร้านริมฟุตบาทแต่อร่อยใช่ย่อย
คืนนี้ ผมก็เลยต้องมาฝากท้องเอาที่นี่ก่อน
เมื่อแรงเริ่มกลับมา... ก็เดินต่อซิครับ ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มหน่อย
ผมเดินผ่านถนนพระจันทร์ ซึ่งเงียบมากในยามค่ำคืน
แต่ถ้าเป็นตอนกลางวันนะ แผงพระนี่พรึบเลยล่ะ
ริมรั้ว ม.ธรรมศาสตร์ ข้างถนนพระจันทร์
จะมีบอร์ดว่าถึงเรื่องราวประชาธิปไตย ไปตลอดกำแพงรั้วมหาลัย
แยกเป็นปีๆเลยนะ น่าสนใจมาก แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว ไฟมันน้อย
ผมเลยก็คงต้องไว้ก่อน คราวหน้าจะมาเดินอ่านอีกทีล่ะกัน
และถ้าใครสนใจไปยืนอ่านความเป็นมาของประชาธิปไตย
ที่ทางธรรมศาสตร์นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจนี้ได้ทุกวันนะครับ
จากท่าพระจันทร์ ผมมุ่งหน้าไปต่อที่ถนนพระอาทิตย์
ตลอดเส้นทางที่ผมเดินไป จะสังเกตได้ว่า กทม. เขาทำไบท์เลน
ไว้ให้คนที่ชอบปั่นจักรยานออกกำลังกาย ไว้ตลอดแทบทุกเส้นทาง
เห็นแล้วอยากคว้าจักรยานมาปั่นบ้างจัง.... (แต่กลัวแม่ไม่มีซื้อกับข้าว...เหอะๆ)
ผมมาช้าไป...... ประมาณ 3 ทุ่ม ผมมาถึงป้อมพระสุเมรุ
และก็เป็นช่วงเวลาที่เขากำลังจะปิดพอดีเลย ก็เล่นเป่านกหวีดไล่ซะขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็เข้าใจได้เอง
แต่ไหนๆก็มาแล้ว เลยรีบจ้ำๆๆแอบเข้าไปถ่ายรูปป้อมซะหน่อย
ป้อมพระสุเมรุเป็นป้อมปืนใหญ่ปกป้องพระนครตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1
ใครอยากรู้ประวัติเต็มก็รบกวน หาในกูเกิ้ลเอาเน้อ...
ติดกันก็จะเป็นสวนสันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะที่บรรยากาศดีมากๆ
วิวแม่น้ำเจ้าพระยา กับสะพานพระรามแปด... บรรยากาศฟินไปดิ
แต่.... ผมมาไม่ทัน เสียใจหนักมาก โดนไล่ออกมา ไม่ได้ไปถ่ายรูปเลย
ชิ ไม่ง้อก็ได้ หันหลังกลับมุ่งสู่ ถนนข้าวสาร หรือตรอกข้าวสารที่เรารู้จักกันดีกว่า
ถ้าจากถนนพระอาทิตย์เราต้องเข้าทางซอยชนะสงคราม
แล้วไปโผล่ออกทางซอยรามบุตรี ก็จะถึงถนนข้าวสาร
ซอยนี้จะอยู่ติดกับวัดชนะสงคราม
วัดเดียวในกรุงเทพ ที่รั้ววัดเป็นแบ็คกราวของบรรดาร้านเหล้าต่างๆ
ใครเมาก็นั่งพิงกำแพงวัดกันไป... เป็นที่พึ่งพิงทั้งทางกายและทางใจอย่างแท้จริง...เฮ้ออออ
ตรอกข้าวสาร เรียกว่าเกินกว่าครึ่งเป็นนักทองเที่ยวชาวต่างชาติ
ขนาดผมคนไทยแท้ๆ พ่อค้าแม่ค้ายังมีมาสปีคอิงริชกับผมเลย
นี่มองหน้ากรูดูไม่ออกจริงๆใช่มั๊ยเนี่ย....
และของที่นี่ผมบอกเลย สำหรับเราๆท่านๆชาวไทยที่เคารพ
ราคาต่างชาติทั้งนั้น แต่ก็ไปว่าเขาไม่ได้ มันแหล่งท่องเที่ยวต่างชาติ
ถ้าจะมาก็ต้องยอมรับราคานี้ให้ได้ เพราะลูกค้าหลักของเขาไม่ใช่คนไทย
ส่วนหน้าถนนข้าวสารจะเป็นลานกิจกรรม ซึ่งจะมีเหล่าน้องๆนักเรียนนักศึกษา
มาจัดแสดงเพื่อรับบริจาคไปบำรุงกิจกรรมต่างๆ..... น่าสนับสนุนครับ
ส่วนใหญ่สินค้าต่างๆ ผมมองว่าคนไทยเราดูแล้วอาจจะธรรมดาๆไปซะหน่อย
ไปเจอทุเรียนรถเข็นขายแพคล่ะ 200 มี 3 พรู... อู้หู...กรูกินไม่ลงเลย ดีนะปีนี้ได้กินไปแล้ว....เลยไม่ว้อน
พวกแมลงนี่ก็เกลื่อนครับ มีตั้งแต่มดยันแมงป่อง แมงมุม...
ผมเองยังไม่กล้ากินเลยแมงป่องงงงง แค่เห็นก็สยิวแล้ว
ห้ามถ่ายรูปนะครับ ตามร้านรถขายแมลง เพราะมีป้ายชัดเจน ถ้าจะถ่าย..ได้ แต่ 10 บาท
เก็บตังด้วยอ่ะ.... ผมนี่ไม่กล้ายกกล้องเลย กลับมาถ่ายร้านแมลงทอดแถวบ้านก็ได้ว่ะ
ส่วนร้านอาหาร ร้านเหล้าต่างๆ ที่นี่เยอะมาก และมีหลากหลายสไตล์
ใครอยากนั่งกินอาหารก็มีร้านอาหารต่างๆ ทั้งธรรมดา โจ๊ก จนถึงอาหารทะเล
ใครอยากชิลๆ ก็มีร้านนั่งแบบสั่งเบียร์ขวด นั่งฟังเพลง
พอนักดนตรีลง ก็ถือขวดเดินไปหาร้านเล่นสดชิลๆ แล้วสั่งเบียร์กิน... ฟังเพลงต่อ
หรือใครอยากนั่งยาวๆ ก็มีร้านบรรยากาศเจ๋งๆ อยู่เต็มสองข้างทาง
หรือใครอยากแดนซ์ แน่นอน... มีหลายร้าน หาดูกันเอาเองนะ
ไม่ขอแนะนำ ไม่มีค่าโฆษณา....555
และค่ำคืนนี้ของผม..... ขอชิลๆล่ะกัน.. ว่าแล้วก็
"น้อง เบียร์ขวด"
รถวิ่งมาเรื่อยจนมาถึงถนนราชดำเนิน ที่นี่มาบ่อยค่อยอุ่นใจหน่อย
จนรถเลี้ยวเข้าถนนดินสอ ถนนนี้อยู่ข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก็รู้สึกได้ว่า... ผิดเส้นทางเราแลัว... สนามหลวงต้องตรงไปนี่หว่า รีบโดดลงไม่รอช้าเลย
ดีนะตรงนั้นมีป้ายรถเมล์พอดี
และต่อจากนี้... ก็ถึงเวลา "วอล์คกิ้งทริป"
เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไป สนามหลวง
ระหว่างทางจะมีซอยต่างๆ ที่ดูภายในซอยหรือถนนย่อยๆนี้
จะดูคึกคักด้วยร้านต่างๆ ที่เปิดรอนักท่องราตรีทั้งหลาย
แต่วันนี้ผมมีเป้าหมายแล้ว... ขอผ่านล่ะกัน
และแล้วก็มาถึงสนามหลวงจนได้ ก็ไม่เท่าไหร่เหมือนจะไกลแต่ก็เดินไหวอยู่นะ
สนามหลวงวันนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากวันวานมากนัก
ยังเป็นสถานที่ ที่ยังมีผู้คนมาอาศัยปูเสื่อรับลมหลับนอน
สนามหญ้าที่นี่นุ่มน่านอนเชียวล่ะ... ลองแล้ว 555 แทบหลับ
ตรงกลางของสนามหลวง จะถูกปูพื้นไว้เพื่อไว้ทำกิจกรรมต่างๆ
ซึ่งตรงนี้ ก็มีทั้งพ่อแม่พาลูกมาวิ่งเล่น วัยรุ่นมารวมกลุ่มจัดกิจกรรมที่ตัวเองชอบ
และส่วนรอบๆสนามหลวง ผมจะเห็นคนมาขี่จักรยานออกกำลังกายกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
นี่แหละ สนามหลวง จึงเป็นที่ออกกำลังกายและพักผ่อนของคนเมืองอย่างดีเลย
ผมเดินข้ามสนามหลวงผ่านหน้าพระลาน
ซึ่งหน้าพระลานก็หน้าวัดพระแก้วนี่แหละ
ตรงนี้มีร้านเก่าแก่อยู่หลายร้าน เป็นที่ชุมนุมของคนมีชื่อเสียงหลายๆท่าน
แต่นี่มืดแล้ว ผมเลยมุ่งหน้าต่อ เพื่อไปสู่ถนนมหาราช
และนี่แหละเป้าหมายของผมวันนี้ "ท่ามหาราช"
ท่ามหาราชจริงๆก็คือท่าเรือนึง ที่จะมีเรือด่วนเจ้าพระยามาจอดรับส่งผู้โดยสารที่ท่านี้
แต่ปัจจุบัน ไม่ว่าที่ไหนถ้าไม่สร้างจุดขาย ชื่อของคุณก็จะค่อยๆหายไปตามเวลา
ที่นี่ก็เหมือนกัน มีการนำร้านอาหารแบรนด์ต่างๆมาไว้
มีร้านค้า มีสินค้ามาไว้ให้ผู้คนได้เลือกซื้อ
มีการนำแผงพระบางส่วนที่มีอยู่มากมายแถวนี้ มาไว้ด้านใน
แต่โดนรวมผมว่า ที่นี่สิ่งที่น่าสนใจก็จะมีแค่การมาถ่ายรูป
ใครที่ชอบถ่ายรูป ชอบเซลฟี่ ที่นี่ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจดีทีเดียว
แต่อย่าคาดหวังกับร้านค้าที่นี่มาก เพราะไม่ได้มีหลากหลาย
ไม่ได้มีเยอะมากมาย จนทำให้ผมคิดไปว่า ครั้งเดียวก็คงเพียงพอแล้ว
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ท่าเรือนี้ในชีวิตประจำวัน แบบผม
แต่ใครยังไม่เคยมา ก็ลองมาหามุมสวยๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้ดูเล่นได้นะครับ
เป็นอีกที่ ที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ดูเล่นได้เยอะทีเดียวเชียว...
หลังจากเต็มอิ่มจากท่ามหาราช ท้องที่ยังไม่อิ่ม ก็ร้องเตือนทันทีเชียว
เลยมุ่งหน้ากลับไปทางถนนพระจันทร์
ข้างถนนจะมีร้านข้าวต้ม อาหารตามสั่ง ให้เลือกอยู่ริมถนนหลายร้าน
ที่นี่อร่อยแทบทุกร้านเลยนะ เดินนี่ใครหิวๆก็ต้องแวะกันล่ะ ร้านริมฟุตบาทแต่อร่อยใช่ย่อย
คืนนี้ ผมก็เลยต้องมาฝากท้องเอาที่นี่ก่อน
เมื่อแรงเริ่มกลับมา... ก็เดินต่อซิครับ ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มหน่อย
ผมเดินผ่านถนนพระจันทร์ ซึ่งเงียบมากในยามค่ำคืน
แต่ถ้าเป็นตอนกลางวันนะ แผงพระนี่พรึบเลยล่ะ
ริมรั้ว ม.ธรรมศาสตร์ ข้างถนนพระจันทร์
จะมีบอร์ดว่าถึงเรื่องราวประชาธิปไตย ไปตลอดกำแพงรั้วมหาลัย
แยกเป็นปีๆเลยนะ น่าสนใจมาก แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว ไฟมันน้อย
ผมเลยก็คงต้องไว้ก่อน คราวหน้าจะมาเดินอ่านอีกทีล่ะกัน
และถ้าใครสนใจไปยืนอ่านความเป็นมาของประชาธิปไตย
ที่ทางธรรมศาสตร์นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจนี้ได้ทุกวันนะครับ
จากท่าพระจันทร์ ผมมุ่งหน้าไปต่อที่ถนนพระอาทิตย์
ตลอดเส้นทางที่ผมเดินไป จะสังเกตได้ว่า กทม. เขาทำไบท์เลน
ไว้ให้คนที่ชอบปั่นจักรยานออกกำลังกาย ไว้ตลอดแทบทุกเส้นทาง
เห็นแล้วอยากคว้าจักรยานมาปั่นบ้างจัง.... (แต่กลัวแม่ไม่มีซื้อกับข้าว...เหอะๆ)
ผมมาช้าไป...... ประมาณ 3 ทุ่ม ผมมาถึงป้อมพระสุเมรุ
และก็เป็นช่วงเวลาที่เขากำลังจะปิดพอดีเลย ก็เล่นเป่านกหวีดไล่ซะขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็เข้าใจได้เอง
แต่ไหนๆก็มาแล้ว เลยรีบจ้ำๆๆแอบเข้าไปถ่ายรูปป้อมซะหน่อย
ป้อมพระสุเมรุเป็นป้อมปืนใหญ่ปกป้องพระนครตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1
ใครอยากรู้ประวัติเต็มก็รบกวน หาในกูเกิ้ลเอาเน้อ...
ติดกันก็จะเป็นสวนสันติชัยปราการ เป็นสวนสาธารณะที่บรรยากาศดีมากๆ
วิวแม่น้ำเจ้าพระยา กับสะพานพระรามแปด... บรรยากาศฟินไปดิ
แต่.... ผมมาไม่ทัน เสียใจหนักมาก โดนไล่ออกมา ไม่ได้ไปถ่ายรูปเลย
ชิ ไม่ง้อก็ได้ หันหลังกลับมุ่งสู่ ถนนข้าวสาร หรือตรอกข้าวสารที่เรารู้จักกันดีกว่า
ถ้าจากถนนพระอาทิตย์เราต้องเข้าทางซอยชนะสงคราม
แล้วไปโผล่ออกทางซอยรามบุตรี ก็จะถึงถนนข้าวสาร
ซอยนี้จะอยู่ติดกับวัดชนะสงคราม
วัดเดียวในกรุงเทพ ที่รั้ววัดเป็นแบ็คกราวของบรรดาร้านเหล้าต่างๆ
ใครเมาก็นั่งพิงกำแพงวัดกันไป... เป็นที่พึ่งพิงทั้งทางกายและทางใจอย่างแท้จริง...เฮ้ออออ
ตรอกข้าวสาร เรียกว่าเกินกว่าครึ่งเป็นนักทองเที่ยวชาวต่างชาติ
ขนาดผมคนไทยแท้ๆ พ่อค้าแม่ค้ายังมีมาสปีคอิงริชกับผมเลย
นี่มองหน้ากรูดูไม่ออกจริงๆใช่มั๊ยเนี่ย....
และของที่นี่ผมบอกเลย สำหรับเราๆท่านๆชาวไทยที่เคารพ
ราคาต่างชาติทั้งนั้น แต่ก็ไปว่าเขาไม่ได้ มันแหล่งท่องเที่ยวต่างชาติ
ถ้าจะมาก็ต้องยอมรับราคานี้ให้ได้ เพราะลูกค้าหลักของเขาไม่ใช่คนไทย
ส่วนหน้าถนนข้าวสารจะเป็นลานกิจกรรม ซึ่งจะมีเหล่าน้องๆนักเรียนนักศึกษา
มาจัดแสดงเพื่อรับบริจาคไปบำรุงกิจกรรมต่างๆ..... น่าสนับสนุนครับ
ส่วนใหญ่สินค้าต่างๆ ผมมองว่าคนไทยเราดูแล้วอาจจะธรรมดาๆไปซะหน่อย
ไปเจอทุเรียนรถเข็นขายแพคล่ะ 200 มี 3 พรู... อู้หู...กรูกินไม่ลงเลย ดีนะปีนี้ได้กินไปแล้ว....เลยไม่ว้อน
พวกแมลงนี่ก็เกลื่อนครับ มีตั้งแต่มดยันแมงป่อง แมงมุม...
ผมเองยังไม่กล้ากินเลยแมงป่องงงงง แค่เห็นก็สยิวแล้ว
ห้ามถ่ายรูปนะครับ ตามร้านรถขายแมลง เพราะมีป้ายชัดเจน ถ้าจะถ่าย..ได้ แต่ 10 บาท
เก็บตังด้วยอ่ะ.... ผมนี่ไม่กล้ายกกล้องเลย กลับมาถ่ายร้านแมลงทอดแถวบ้านก็ได้ว่ะ
ส่วนร้านอาหาร ร้านเหล้าต่างๆ ที่นี่เยอะมาก และมีหลากหลายสไตล์
ใครอยากนั่งกินอาหารก็มีร้านอาหารต่างๆ ทั้งธรรมดา โจ๊ก จนถึงอาหารทะเล
ใครอยากชิลๆ ก็มีร้านนั่งแบบสั่งเบียร์ขวด นั่งฟังเพลง
พอนักดนตรีลง ก็ถือขวดเดินไปหาร้านเล่นสดชิลๆ แล้วสั่งเบียร์กิน... ฟังเพลงต่อ
หรือใครอยากนั่งยาวๆ ก็มีร้านบรรยากาศเจ๋งๆ อยู่เต็มสองข้างทาง
หรือใครอยากแดนซ์ แน่นอน... มีหลายร้าน หาดูกันเอาเองนะ
ไม่ขอแนะนำ ไม่มีค่าโฆษณา....555
และค่ำคืนนี้ของผม..... ขอชิลๆล่ะกัน.. ว่าแล้วก็
"น้อง เบียร์ขวด"